การที่เพื่อน ๆ จะอยากให้ห้องนอนของเรามีบรรยากาศดี ๆ แบบโรงแรมหรูนั้นทำได้ไม่ยากเพียงแค่รู้วิธีเลือกหลอดไฟในห้องนอนและการจัดวางโคมไฟห้องนอนแบบมืออาชีพ เท่านี้ก็จะช่วยเปลี่ยนห้องนอนธรรมดา ๆ ของเราให้กลายเป็นห้องนอนโรงแรมสุดหรูได้แล้ว ไม่จำกัดว่าห้องของเพื่อน ๆ จะมีขนาดเท่าไหร่ก็สามารถทำได้
วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาดู ไอเดียสำหรับจัดไฟในห้องนอนกัน
1. เลือกหลอดไฟให้เข้ากับห้อง
ไฟในห้องนอนนั้นไม่ควรที่จะสว่างเกินไปตามหลักจิตวิทยา และฮวงจุ้ยนั้นบอกไว้ว่าเพราะจะทำให้ห้องดูร้อนนอนหลับยากทำให้สมองตื่น ส่งผลเสียต่อดวงตาซึ่งหลอดไฟทั่วไปจะมีระดับของสีอยู่ 3 ระดับหลัก ๆ
หลอดไฟแบบ Daylight
เป็นหลอดไฟที่ให้แสงสว่างเป็นโทนสีฟ้า เหมือนกับแสงสว่างในช่วงกลางวันเหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการมองเห็นได้ชัดเจนสีไม่เพี้ยนเช่น โต๊ะเครื่องแป้ง
หลอดไฟแบบ Cool white
เป็นหลอดไฟที่ผสมระหว่าง Daylight กับ Warm white สีที่ออกมาจะเป็นโทนขาว มีความนวลตากว่าแบบ Daylight ทำให้ง่ายในการนำไปตกแต่งห้อง
หลอดไฟแบบ Warm white
เป็นหลอดไฟที่จะให้แสงสีนวลออกไปโทนส้ม ไม่สว่างมากดูอบอุ่นสบายตา สร้างบรรยากาศที่ดีได้ โรงแรมส่วนมากจึงนิยมเลือกหลอดไฟแบบ Warm white เพราะมีปริมาณแสงสีฟ้าน้อยกว่าหลอดไฟแบบอื่น แสงสีฟ้าจะไปลดการผลิตเมลาโทนิน หรือฮอร์โมนแห่งการผ่อนคลายให้น้อยลง
2. จัดไฟห้องนอนเพิ่มมิติ
การจัดวางไฟในการตกแต่งนั้น เราควรกำหนดจุดเสียก่อนว่าตรงไหนจะทำอะไร ตรงไหนเป็นเตียงนอน โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง แล้วค่อยกำหนดว่าจะติดตั้งไฟตรงจุดไหนบ้างเพราะ แต่ละจุดมีวิธีการจัดไฟที่แตกต่างกันไปตามแต่ความเหมาะสมซึ่งวิธีจัดก็จะมีด้วยกันอยู่ทั้งหมด 3 วิธี
จัดไฟแบบส่องสว่างทั่วไป
เป็นการจัดไฟพื้นฐานสำหรับทุกห้อง ให้แสงสว่างพอดีกับการมองเห็นซึ่งถ้าจะติดไว้บริเวณเตียงนอนควรติดเยื้องออกไป หรือมีโคมไฟเพื่อสะท้อนขึ้นเพดานไม่ให้แสงส่องมาที่เราโดยตรง
จัดแสงไฟแบบส่องใช้งาน
เป็นแสงไฟที่เราจะเน้นส่องสว่างเฉพาะจุด โต๊ะอ่านหนังสือ โต๊ะเครื่องแป้ง โดยส่วนมากจะนิยมใช้โคมไฟในการให้แสง เช่นโคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟแบบแขวน ควรดูตำแหน่งการวางโคมไฟให้เหมาะสม เช่นหากถนัดขวาก็ตั้งโคมไว้มุมซ้าย
แสงไฟแบบส่องเน้น
เป็นแสงไฟที่ใช้เพื่อตกแต่งห้องให้ดูสวยงามโดยจะเป็นไฟที่ซ่อนอยู่ตามผนัง หรือเพดาน ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ห้องของเพื่อน ๆ ดูแตกต่างไปจากห้องเดิม