จริง ๆ แล้วเหล็กฉีกคืออะไรกันแน่ และทำไมต้องเรียกว่า “ตะแกรงเหล็กฉีก” วันนี้ดูโฮมไกด์จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับเหล็กฉีก หรือที่ทุกคนเรียกว่า ตะแกรงเหล็กฉีก แท้จริงแล้วเกิดจากอะไร และนำไปใช้งานอย่างไรได้บ้าง มาอ่านไปพร้อม ๆ กันเลยครับ
เหล็กฉีกคืออะไร ?
แผ่นโลหะที่นำมาทำให้เป็นรูโดยการยืด หรือฉีก มีลักษณะเป็นตาข่ายรูปสี่เหลี่ยม ข้าวหลามตัด หรือคล้าย ๆ กับรังผึ้ง ในการผลิตเหล็กฉีกจะไม่ใช้การเชื่อม หรือการเจาะรู ตะแกรงเหล็กฉีกจึงมีลักษณะเป็นเหล็กเนื้อเดียวกันตลอดทั้งแผ่น มีความแข็งแรง ยากที่จะขาด และหลุดออกจากกัน
คุณสมบัติของเหล็กฉีก หรือตะแกรงเหล็กฉีก
- มีความแข็งแรง คงทน และราคาถูก
- มีน้ำหนักเบา
- ช่วยประหยัดเวลาในการก่อสร้าง
- สะดวกในการซ่อมแซม และทำความสะอาดง่าย
- ระบายความร้อนได้ดี
- มีอายุการใช้งานยาวนาน
- สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย
เหล็กฉีก หรือตะแกรงเหล็ก มีความหนาให้เลือกตั้งแต่ 1.2 , 1.6 , 2.3 , 3.2 , 4.5 ไปจนถึง 6 มิลลิเมตร โดยปกติงานทั่วไปมักจะเลือกใช้ความหนาเพียง 1.2 - 3 มิลลิเมตร ส่วนงานที่ต้องรับน้ำหนักสูง เช่น งานพื้น ควรเลือกใช้ความหนาตั้งแต่ 4.5 มิลลิเมตรขึ้นไป
เหล็กฉีก หรือตะแกรงเหล็กสามารถแบ่งได้ 4 ประเภท ?
- ทั้ง XS และ XG ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ และนิยมนำมาใช้งานมากที่สุด
- G ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีรูปลักษณ์ที่แตกต่าง และสวยงาม
- CT รุ่นเล็ก เหมาะสำหรับใช้กับงานละเอียด และน้ำหนักเบา
การนำไปใช้งาน ของเหล็กฉีก
- ใช้สำหรับปูพื้นทางเดิน หรือปูพื้นเพื่อให้รถวิ่งได้
- ใช้ทำตะแกรงระบายน้ำ ตะแกรงกันนก กันหนู
- ใช้ทำราวกันตก ทำรั้ว
- ใช้ทำกรงล้อมเขตอันตราย
- ใช้รองพื้นเพื่อเทปูนในการก่อสร้าง หรือพื้นที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก
- ใช้สำหรับตกแต่งบ้าน อาคาร หรือร้านต่าง ๆ
เหล็กฉีก หรือตะแกรงเหล็ก มีความหนาให้เลือกตั้งแต่ 1.2 , 1.6 , 2.3 , 3.2 , 4.5 ไปจนถึง 6 มิลลิเมตร โดยปกติงานทั่วไปมักจะเลือกใช้ความหนาเพียง 1.2 - 3 มิลลิเมตร ส่วนงานที่ต้องรับน้ำหนักสูง เช่น งานพื้น ควรเลือกใช้ความหนาตั้งแต่ 4.5 มิลลิเมตรขึ้นไป
ตัวอย่างการนำเหล็กฉีกไปใช้งานต่างๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ...จากข้อมูลที่ ดูโฮมไกด์ ได้รวบรวมมาไว้ให้ หวังว่าทุกท่านจะได้ทำความรู้จักเหล็กฉีกกันมากขึ้น นอกจากการใช้งานที่เรานำมาเสนอในวันนี้ ทุกท่านสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ความต้องการเลยนะครับ